News online

กลับไปยังหน้าหลักเพื่อสนทนา C-Box ดู TV และฟังวิทยุ ได้ที่

วันเสาร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

แฉชูพงศ์ กดหัวคนเสื้อแดง ให้ยอมตาม ณัฐวุฒิ-จตุพร นักสู้กำมะลอ

โดย วิญญาณวีรชน
๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๔

นายชูพงศ์ได้กล่าวในรายการทางออกประเทศไทย เมื่อวันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๕๔ ช่วงชั่วโมงที่ ๓.๑๒ ว่า “ตนเองเชื่อมั่นในพลังมวลชนที่จะเปลี่ยนระบอบ”
เดิมนั้น เชื่อว่า มี ๓ พลัง ที่จะเปลี่ยนระบอบได้ คือ
๑.จ้าว
๒.ทหาร
๓.ประชาชน

เมื่อพลังที่ ๑,๒ ไม่เปลี่ยนระบอบแล้ว ตอนนี้เหลือแต่พลังที่ ๓ คือ”ประชาชน” ซึ่งนายชูพงศ์ ได้กล่าวทำนองนี้ หลายครั้งมาแล้ว โดย ครั้งนี้ย้ำใหม่ว่า “เหลือแต่พลังประชาชน” และยังบอกว่า “คนเสื้อแดงได้มีทหารเป็นพรรคพวกอีกมาก เสียดายที่เที่ยวนี้ไม่ได้ตำแหน่ง”

ความคิดเพ้อฝันลมๆ แล้งๆ ที่ ทั้งอ้างว่า “ทหารเป็นพวกคนเสื้อแดงจำนวนมาก” “ทหารคอยช่วยเหลืออีกมาก”เป็นแนวคิดที่เอามาพูดมึนชาและหักล้างข้ออ้างของตนเองที่ “เชื่อมั่นในพลังของมวลชน”

เรามิได้ดูคนที่ “วาทะกรรม” แบบที่ชูพงศ์พยายามชักจูงคนเสื้อแดงให้เทิดทูนและติดตามณัฐวุฒิ-จัตุพร เพราะ เราสามารถตรวจสอบ “ตรรกะในวาทะกรรม” “ทฤษฎีที่ชูพงศ์ใช้” และ”การปฏิบัติ”ว่าทำตามคำพูดจริงหรือเปล่า? สุดท้ายเราตรวจสอบ “ผลจากคำพูดนั้น” เราตรวจถึง ๕ ขั้นตอน ของวาทะกรรม(ตรรกะ-ข้อมูล-ทฤษฎี-การกระทำของคนพูด-และผลการกระทำ)

เราจึงสรุปได้ตั้งนานแล้วว่า ชูพงศ์และแกนนำสามเกลอ มัน “ดีแต่พูด” “นำพาไม่ได้เรื่อง และมีคนตายจำนวนมากที่หลงตามมันไป”

ชูพงศ์ก็เช่นเดียวกันที่ ไม่มีผลงานขององค์กรใต้ดิน “ทู” ไม่มีหน่วยจัดตั้งมวลชนของชูพงศ์ อาจมีการจัดตั้งทางแนวคิดบ้าง ที่มีคนยังเชื่อถือรอเวลาตามที่ชูพงศ์บอกให้แจกซีดี ให้คอยตามแกนนำ และรอรัฐบาลไปเรื่อยๆ อยู่บ้าง

แต่เราพบว่า “ไม่มีผู้ปฏิบัติงานมวลชนที่ส่งมาจากชูพงศ์ไปจัดตั้งที่เป็นรูปธรรม ในการต่อสู้ ในการจัดศึกษาอบรม และชูพงศ์ไม่ยอมรับในการต่อสู้ทางชนชั้นใดๆ มีแต่สู้กับเจ้า ให้ประชาชนคนเสื้อตามตนเองในทางใต้ดิน และให้เดินตาม ณัฐวุฒิ จัตุพร ในการจัดเวที –ส่วนทักษิณให้มวลชนเทินทูนปกป้องบูชาสรรเสริญไว้

นี่คือ “ผลของการปฏิบัติตามการชี้นำของชูพงศ์” -กูรู –ผู้ประกาศนำการปฏิวัติเปลี่ยนระบอบของประเทศไทยอย่างน่าอับอาย คุณชูพงศ์เป็นบุคคลคนเดียวที่อ้างนำการปฏิวัติ ที่มิได้นำรวมหมู่ ไม่มีทฤษฎีที่ชัดเจนและไม่มีงานมวลชนปฏิวัติอะไรที่ไหน ที่จะบังอาจประกาศตัวเป็น “ผู้นำเดี่ยวของการปฏิวัติ”

แนวคิดที่ไม่มีจุดยืนทางชนชั้น ใช้คำว่า “เพื่อประชาธิปไตยที่แท้จริงแบบลอยๆ” จึงไม่อาจหลอกคนที่รู้เรื่องชนชั้นผู้หาเลี้ยงสังคม—คือผู้ใช้แรงงาน ที่สร้างและเลี้ยงสังคม ชนชั้นนี้ถูกกดขี่ขูดรีดทั้งเจ้า และนายทุน พวกเขาแบกภาระเลี้ยงดูพระสงฆ์ ๓ แสนรูป เลี้ยงดูข้าราชการ ๓ ล้านคน เลี้ยงทหารประจำการอีก ๖ แสนคนที่กินข้าววันละ ๓ มื้อฟรีๆ ที่ได้เงินภาษีไปซื้อกิน จนมีแรงกำลังไปคอรัปชั่น และฆ่าคน—ชนชั้นผู้ใช้แรงงานไม่ใช่ลูกจ้างนายทุนทางการเมือง

ชนชั้นผู้ใช้แรงงานต้องเป็น “กลุ่มอิสระ-หรือเป็นองค์กรการเมืองอิสระ” นี่คือทิศทางที่ ต้องจัดตั้งขึ้น หาใช่การอ้างสวมหัวว่า “พรรคเพื่อไทยคือพรรคของชนชั้นรากหญ้า” หรือเอา “องค์กร นปช.มาตู่ว่าเป็นองค์กรนำเปลี่ยนระบอบของคนเสื้อแดงทั้งประเทศ”

นี่คือหลักฐานทางการกระทำที่ชูพงศ์ กดหัว “ชนชั้นผู้หาเลี้ยงสังคม”ให้เข้าไปอยู่ในสังกัดชนชั้นนายทุน และลูกจ้างกำมะลอ”เสียสิ้น

คนเสื้อแดง แม้ยังไม่มีองค์กรนำระดับชาติ แต่พวกเขากำลังก่อรูปขึ้นอย่างเงียบๆ ซึ่งถ้าชูพงศ์ รักมวลชนจริงๆ ต้อง”ให้การส่งเสริมแนวทางนี้ อย่าพูดส่งเดชว่า “เชื่อมั่นมวลชน” คุณชูพงศ์ เชื่อมั่นเพียงให้มวลชนเป็นแค่กองเชียร์เท่านั้น

คนเสื้อแดงต้องเป็น “แนวร่วม” กับ “พรรคเพื่อไทย” และเป็นแนวร่วมกับ “นักต่อสู้กับเจ้า” การเป็นแนวร่วมคือ”ร่วมกันทำงาน” มิใช่ให้ “ขึ้นต่อ” แบบที่ชูพงศ์กำลังชี้นำ และอย่าร่วมกับ “พรรคเพื่อไทย”ถ้ารู้ว่าพวกนี้กำลังทรยศ เพราะมันกำลังกลายเป็น “ศัตรูของคนเสื้อแดงขึ้นทุกวัน”

***และถ้าชูพงศ์ยังหน้าด้านชี้นำให้เดินตาม แกนนำ นปช. ที่เป็นคนทรยศ และลูกจ้างชนชั้นนายทุน ที่สู้แบบเฉื่อยเนือย และหลบเลี่ยงการโค่นล้มเจ้านี้ จึงเรียกว่า “การกดหัวมวลชนให้ยอมรับคนทรยศและลูกจ้างทักษิณ”ใช่หรือไม่?
......................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น