News online

กลับไปยังหน้าหลักเพื่อสนทนา C-Box ดู TV และฟังวิทยุ ได้ที่

วันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

คดี 112 : กรณีโจ กอร์ดอน (เลอพงษ์ วิชัยคำมาส)

ศาลตัดสินจำคุก "โจ กอร์ดอน" 2 ปีครึ่ง


"I am an American citizen, and what happened was in America."-ผมเป็นพลเมืองอเมริกัน,แล้วนี่มันเกิดอะไรกับอเมริกา?-โจ กอร์ด้อน กล่้าวหลังทราบคำตัดสิน(AP)


"I would like to stay and see some positive Thailand. I want to see the real, amazing Thailand, not the messy Thailand."-เมื่อพ้นโทษผมจะอยู่ในประเทศไทย ผมอยากดูว่าจะมีอะไรในทางบวกสำหรับไทย ผมต้องการอย่างนั้นจริงๆ มหัศจรรย์เมืองไทย ผมไม่หวังจะได้เห็นความยุ่งยากสำหรับประเทศนี้-โจ กอร์ด้อนกล่าวกับAP

Thu, 2011-12-08 10:30

คดีแปลหนังสือ TKNS ศาลตัดสินจำคุก "โจ กอร์ดอน" 5 ปี แต่สารภาพจึงลดโทษเหลือ 2 ปีครึ่ง ทนายเล็งขออภัยโทษ ด้านกงสุลสหรัฐแถลงผิดหวังต่อผลการตัดสิน

เวลา 9.00 น. วันนี้ที่ห้องพิจารณาคดี 812 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก มีการอ่านคำพิพากษาคดี โจ กอร์ดอน หรือ เลอพงษ์ (ขอสงวนนามสกุล) ผู้ต้องหา “หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ” เนื่องจากแปลและเผยแพร่ หนังสือ "The King never smiles" (TKNS) โดยก่อนหน้านี้เมื่อ 10 ต.ค. จำเลยตัดสินใจรับสารภาพ (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)

โดยศาลตัดสินให้ลงโทษจำคุกนายโจ กอร์ดอน เป็นเวลา 5 ปี แต่จำเลยรับสารภาพจึงลดโทษ 2 ปี 6 เดือน โดยทนายความจำเลยเตรียมยื่นขออภัยโทษ หากอัยการไม่ยื่นอุทธรณ์

ด้านสถานกงสุลสหรัฐในประเทศไทย กล่าวว่าการตัดสินลงโทษดังกล่าวเป็นเรื่อง "รุนแรง" (severe) ถึงแม้ว่าจะนับว่าน้อยแล้วสำหรับนักโทษในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ

อลิซาเบ็ธ แพร็ต ตัวแทนสถานทูตสหรัฐกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า โจ กอร์ดอน ถูกตัดสินลงโทษจากสิทธิในการแสดงออกที่เขาพึงมี

"เรายังคงเคารพสถาบันกษัตริย์ของไทย แต่ในขณะเดียวกันเราก็สนับสนุนสิทธิในการแสดงออก ซึ่งเป็นหลักสิทธิมนุษยชนซึ่งได้รับการรับรองในทางสากล" แพร็ตกล่าว

ตัวแทนกงสุลสหรัฐยังกล่าวว่า จะให้ความช่วยเหลือและการสนับสนุนแก่โจ กอร์ดอนต่อไปโดยเร็วที่สุด

ทั้งนี้ มีผู้สื่อข่าวไทยและต่างประเทศราว 50 คน ให้ความสนใจการอ่านคำพิพากษาคดีนายโจ กอร์ดอน ที่ห้องพิจารณาคดี ณ ศาลอาญา

นายเลอพงษ์ มีสัญชาติไทย-อเมริกัน อายุ 54 ปี ได้ออกจากประเทศไทยไปใช้ชีวิตอยู่ในรัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา เกือบ 30 ปี มีความสามารถด้านศิลปะหลายอย่าง เช่น ถ่ายรูป วาดภาพ โดยเคยเปิดนิทรรศการภาพเขียนในประเทศสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ยังเชี่ยวชาญการเล่นกีตาร์อะคูสติก เคยร่วมแต่งเพลงกับนักดนตรีเพื่อชีวีตชื่อดังของไทยอย่าง หงา คาราวาน และร่วมเป็นทีมงานในการผลิตภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับชีวิตของชาวอีสานผู้ได้รับ ผลกระทบจากการสร้างเขื่อนเรื่องเรื่อง ทองปาน ซึ่งมี ไพจง ไหลสกุล ,รัศมี เผ่าเหลืองทอง, ยุทธนา มุกดาสนิทและ สุรชัย จันทิมาทร เป็นผู้กำกับ โดยภาพยนต์เรื่องนี้ได้สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2519

ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 24 พ.ค. 54 ที่ จ.นครราชสีมา ตามหมายจับเลขที่ 318/2554 ออกเมื่อวันที่ 25 ก.พ. 54 ข้อหาหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ และกระทำให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ฯ และกระทำผิดพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์

ทั้งนี้เขาถูกกล่าวหาว่าเป็นเจ้าของบล็อกที่ชื่อว่า "บาทเดียว" และเป็นผู้ใช้นามแฝงว่า "สิน แซ่จิ้ว" โดยในบล็อกของเขาซึ่งใส่ลิงก์ให้ดาวน์โหลดหนังสือThe King Never Smiles และถูกตั้งข้อกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการแปลหนังสือฉบับดังกล่าวเป็นภาษาไทย

สำหรับหนังสือ The King Never Smiles เป็นหนังสือที่เขียนเกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เขียนโดย Paul Handley นักข่าวอิสระซึ่งทำงานและอาศัยอยู่ในประเทศไทย หนังสือเล่มนี้ตีพิมพ์โดยสำนักพิมพ์มหาวิทยาลัย Yale เผยแพร่เมื่อปี 2549 ปัจจุบันเป็นหนังสือต้องห้ามในประเทศไทย

นับแต่ถูกจับกุมโจปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาโดยทันทีและถูกควบคุมตัวที่เรือนจำพิเศษ กรุงเทพมหานคร และทนายได้ยื่นหลักทรัพย์เพื่อขอประกันตัวโดยอ้างสิทธิพื้นฐาน และยังระบุว่าโจมีโรคความดันเลือดและโรคเกาต์ที่ต้องการการรักษา แต่ศาลปฏิเสธโดยให้เหตุผลว่าเป็นข้อหาที่กระทบต่อความมั่นคงและกระทบต่อสถาบัน พระมหากษัตริย์ซึ่งมีโทษสูง และเขาอาจทำลายพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องได้

หลังจากพยายามขอประกันตัวต่อเนื่องเป็นจำนวน 8 ครั้ง ในวันที่ 10 ตุลาคม 2554 ซึ่งเป็นวันแรกของการนัดพิจารณาคดี โจตัดสินใจประกาศว่าเขาไม่ขอต่อสู้คดี ศาลมีคำสั่งให้เจ้าพนักงานคุมประพฤติสืบเสาะพฤติการณ์ของจำเลยแล้วรายงานต่อ ศาลภายใน 20 วัน และกำหนดวันพิพากษาวันที่ 9 พฤศจิกายน 2554 แต่ด้วยเหตุน้ำท่วมกรุงเทพฯ ทำให้วันพิพากษาถูกเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 8 ธันวาคม 2554 นับแต่วันจับกุมจนถึงวันพิพากษา โจถูกควบคุมตัวต่อเนื่องมาเป็นเวลา 199 วัน หรือ 6 เดือนกับ 15 วัน

จาก prachatai

.......................


ล่าสุดวันนี้ยังไม่ตัดสินคดีโจ กอร์ดอน - แค่เบิกตัวพบ พนง.คุมประพฤติสอบเพิ่ม
Mon, 2011-11-28 11:02


(28 พ.ย.54) ที่ศาลอาญา รัชดา - ตามที่มีการแจ้งจากทนายความของโจ กอร์ดอน หรือเลอพงษ์ (สงวนนามสกุล) ว่าจะมีการเลื่อนนัดฟังคำพิพากษาคดีโจ กอร์ดอน วันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ศาลแจ้งว่าไม่มีการตัดสินในวันนี้ โดยการเบิกตัวนายโจ กอร์ดอน เป็นการเรียกพบพนักงานคุมประพฤติ สืบเนื่องจากศาลสั่งสืบเสาะเพิ่ม โดยวันนัดฟังคำตัดสินนั้นยังคงเป็นวันที่ 8 ธ.ค.54 ทั้งนี้ มีเจ้าหน้าที่จากสถานทูตสหรัฐฯ เดินทางมาเพื่อรับฟังคำตัดสิน รวมถึงเข้าเยี่ยมนายโจ กอร์ดอนด้วย

อนึ่ง เมื่อสอบถามญาติซึ่งเป็นผู้แจ้งข่าวทนายกล่าวว่า เธอได้รับแจ้งเพียงว่าโจต้องมาศาลในวันนี้


จาก prachatai

รายละเอียด :

โจ (เลอพงษ์) กอร์ดอน ชาวไทยสัญชาติอเมริกัน-ไทย ถูกเจ้าพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) จับกุมตัวที่บ้านพักจังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 24 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยโจทก์ฟ้องว่า จำเลยกระทำผิดโดยนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อความที่เป็นการดูหมิ่น หมิ่นประมาท แสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา โดยใช้นามแฝงว่า "สิน แซ่จิ้ว" พร้อมประกาศตนว่า กูไม่ใช่ฝุ่นใต้ฝ่าตีนบุคคลใด นอกจากนี้ยังบังอาจแปลหนังสือ The King Never Smiles ซึ่งเป็นหนังสือต้องห้ามภายในราชอาณาจักร

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 10 ต.ค.54 นายโจ (เลอพงษ์) กอร์ดอน รับสารภาพต่อหน้าบัลลังก์ว่า “ผมไม่ต่อสู้คดี ยอมรับสารภาพ” จากเดิมที่เขาให้การปฏิเสธทั้งในชั้นจับกุม และชั้นสอบสวน โดยศาลนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 9 พ.ย. แต่ถูกเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 8 ธ.ค.54 เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วม

หนังสือ"The King Never Smile" ที่โจ เลอพงษ์ถูกกล่าวหาเป็นผู้แปลและเผยแพร่นั้น ตีพิมพ์ในภาษาอังกฤษโดยสำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยชั้นเยล ทางราชการไทยได้สั่งห้ามนำเข้ามาภายในประเทศ ถูกใช้เป็นแบบเรียนเพื่ออ่านประกอบการเรียนการสอนวิชา "ไทยศึกษา" ของมหาวิทยาลัยเยล ซึ่งมีศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียงหลายคน เช่น อดีตประธานาธิบดีจอร์ช ดับเบิลยู บุช ,บิล คลินตัน และฮิลลาลี คลินตัน

ก่อนหน้านี้เมื่้อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โจ กอร์ดอน ได้เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ประเทศที่ได้ชื่อว่า “สิทธิมนุษยชน” ถูกบังคับใช้อย่างกว้างขวางและเท่าเทียม ทว่า ชายคนนี้ คนที่ต้องหาในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพในประเทศไทย ไม่เคยสัมผัสแต่เพียงนิดเดียว…ดังต่อไปนี้(รายละเอียดฉบับภาษาอังกฤษอ่านข่าว:จดหมายจากคุกถึงทำเนียบขาว ท่านประธานาธิบดีเสรีภาพอเมริกันถูกย่ำยีโดยประเทศโลกที่3อย่างไทย)

กราบเรียน ท่านประธานาธิบดีโอบาม่า

ผมเขียนจดหมายนี้ถึงท่าน เป็นเรื่องความเป็นความตายของผมในคุกที่กรุงเทพ,ประเทศไทย ทางการไทยจับกุมผมด้วยข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และกฎหมายความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ รัฐบาลไทยใช้กฎหมายนี้กับนักกิจกรรม ปัญญาชน นักข่าว นักเขียน และนักการเมือง โดยคุมขังคนเหล่านี้ในเรือนจำนานนับทศวรรษในหลายกรณีแล้ว

ผมไม่สามารถต่อสู้คดีนี้ในกระบวนการยุติธรรมไทยได้แต่เพียงลำพัง เพราะว่า มันเป็นกระบวนการที่ฉ้อฉล อคติ และละเมิดสิทธิมนุษยชน ซ้ำร้ายยังเต็มไปด้วยการปฏิบัติที่ไม่ยุติธรรม เป็นต้นว่า ในกรณีของผม มีการจองจำโดยไม่ให้ประกันตัว ผมจึงรู้สึกว่าน่าสลดใจที่เสรีภาพในการแสดงออกของเราชาวอเมริกัน ได้ถูกละเมิด ย่ำยี และลดทอนคุณค่าลงโดยประเทศโลกที่สามอย่างไทย

ผมอยากเรียกร้องให้อเมริกันชนทั้งมวลลุกขึ้นเถิดเพื่อสนับสนุนการปกป้องต่อเกียรติภูมิของรัฐธรรมนูญแห่งสหรัฐอเมริกาที่บัญญัติให้เสรีภาพในการแสดงออกเป็นข้อบทที่สำคัญยิ่ง ทว่ารัฐบาลไทยไม่ยอมรับ รัฐบาลอเมริกันควรต้องพิทักษ์ปกป้องและประณามที่ไทยใช้กฎหมายอันมิชอบนี้เป็นเครื่องมือปกป้องสถาบันกษัตริย์ให้พ้นไปจากการวิพากษ์วิจารณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนอเมริกันเช่นผมที่โดนกระทำอยู่ในเวลานี้ และเพรียกหาอิสรภาพ ประเทศไทยต้องปล่อยผมจากคุกตั้งแต่บัดนี้

ขอพระเจ้าทรงอำนวยพระพรท่านประธานาธิบดี และอเมริกา

ด้วยความเคารพยิ่ง

โจ กอร์ด้อน

เรือนจำกรุงเทพฯ ประเทศไทย

คัดลอกบางส่วนมาจาก thaienews

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น