News online

กลับไปยังหน้าหลักเพื่อสนทนา C-Box ดู TV และฟังวิทยุ ได้ที่

วันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

บันทึกการระดมสมองสรุปบทเรียนจากการต่อสู้ วิเคราะห์ทหารและความพ่ายแพ้ทางการทหารของ นปช.

การปิดล้อม นปช.ที่ราชประสงค์ หลังจากรัฐบาลอภิสิทธิ์พ่ายแพ้ทางการทหารที่ผ่านฟ้า พลิกกลับเป็นชัยชนะได้อย่างไร?
๑.ไม่ให้ นปช.เคลื่อนจากราชประสงค์ โดยยิงขบวน นปช. ที่อนุสรณ์สถาน ดอนเมือง
๒.กระชับวงล้อม (บีบ)
๓.ขึ้นตึก
๔.ส่งสายข่าวแทรกซึมแบบเกาะติดเจาะจงตัว
๕.คุมด่านเข้าออกของ นปช.
๖.เดินตามรางรถไฟ
๗.รถหุ้มเกราะดัน
๘.พลเดินเท้าตามยึดพื้นที่
๙.หน่วยส่องกล้องชี้เป้า
๑๐.สไนเป้อร์ยิงเปิดทาง
๑๑.พลบนรางรถไฟฟ้ารุกคืบ
๑๒.พลบนตึกชั้นกลางประจำที่
๑๓.พลเดินเท้ารุกยิง (ยิง ๓ ระดับ ยอดตึก กลางตึก พื้นดิน ระยะยิงคุมพื้นที่กว้างไกล)

วิพากษ์แกนนำ ๓ เกลอ
๑.ไม่รู้ทฤษฎี
๒.ไม่เปิดโอกาสวงกว้าง
๓.ไม่ให้การศึกษา เร้าแต่อารมณ์ เน้นเอามันส์และตลก
๔.ไม่ตรวจแนวป้องกันภัย
๕.ไม่เตรียมซ้อมการถอย
๖.ไม่พามวลชนพักผ่อนที่ดี มุ่งกระตุ้นทำลายสุขภาพมวลชน ตะโกน เร่งเสียง ร้องเพลง ไม่ให้นอน ไม่ให้พร้อมสู้หรือหลบ ทำให้มวลชนอ่อนแอทางร่างกาย ไร้กำลังกายและสมองเฉื่อยชา
๗.ไม่จัดผลัดเวร
๘.ดื้อรั้น
๙. บางคนทรยศ/หักหลังประชาชน แอบหนีไปเจรจาลับๆ และดึงมวลชนไปสวามิภักดิ์หัวหน้าโจรตลอดเวลา
๑๐.มึนชา-สุ่มเสี่ยง
๑๑.ลดระดับการต่อสู้ จากสู้กับอำมาตย์ลดมาเป็นสู้กับรับบาลลูกสมุนอำมาตย์
๑๒.ฉวยโอกาสชิงการนำ
๑๓.รอการบุก
๑๔.รอการถูกฆ่า
๑๕.ไม่รู้ยุทธศาสตร์-ยุทธวิธีทางการเมือง
๑๖..ไม่รู้ยุทธศาสตร์-ยุทธวิธีทางการทหารเพื่อป้องกันตัวและมวลชน ไม่รู้ว่าการถอย การหนี การซ่อนตัวเป็นยุทธวิธีทางการทหารชนิดหนึ่ง...กำหนดจากความไม่พร้อมปะทะหรือบุก(เพราะคิดว่าสัตว์นรกจะใจอ่อน)
๑๗.เพ้อฝันหวังมีคนมาช่วย
๑๘.เพ้อฝันว่าศัตรูไม่กล้าฆ่า
๑๙.ไม่ให้ความสำคัญแก่ผู้ปฏิบัติงานท้องถิ่น
๒๐.พูดขัดแย้งกันเอง..เช่นให้สู้ตายแต่ตนเองไม่สู้ให้ดูก่อน เช่นลงไปนอนให้รถถังเหยียบให้ดูก่อน
๒๑.เล่นในเกมศัตรู
๒๒.เห็นแก่ตัว หวังยศตำแหน่งจากการเลือกตั้ง เอาแต่ชื่อเสียง แฟนคลับ พรรคพวก
๒๓.แกนนำสู้เพื่อตนเองจะได้ไปนั่งพูดต่อรองในสภา แทนที่จะสร้างมวลชนปฏิวัติเพื่อกดดันบังคับโจร
แทนที่จะสร้างคนจับโจร หรือสร้างสภาประชาชนกลับเน้นหาเสียงให้ประชาชนเลือกส่งตนเองไปนั่งในสภาโจร
๒๔.ไม่เปิดเผยค่าใช้จ่ายเงินบริจาค เงินเหลือ จากค่าทำบัตร นปช.
๒๕.ไม่กล้าหนี ไม่กล้าประกาศต่อสู้แบบแลกหมัด ขี้ขลาดกลัวยากลำบาก กลัวตาย

การทหารที่แกนนำ 3 เกลอไม่รู้การแก้เกมเพื่อถอยทางการทหาร
๑.ไม่รู้ยุทธศาสตร์ขั้นรับ ยันรุก ถอย และหนี
๒.ไม่รู้จักสงครามจรยุทธ์
๓.ไม่คิดยุทธวิธีสร้างสรรค์ออกแบบใหม่ เรียบง่าย
๔.ไม่รู้ว่าศัตรูใช้การทหารแก้การเมือง
๕.เมืองตึกสูงเป็นหุบผามรณะ
เป็นทุ่งสังหาร
๖.ไม่ห่วงชีวิตและสมบัติมวลชน เช่น รถ กระเป๋าเสื้อผ้า
คอมพิวเตอร์ เต้นท์ หนังสือ โต๊ะเก้าอี้ เครื่องครัว
เครื่องนอน สื่อวิทยุ ทีวี ชีวิตคน เสียหายหมด

วิเคราะห์แผนการล้อมฆ่าประชาชนของศัตรู

๑.ล้อมจากไกลขยับเข้าใกล้
(ตัดเสบียง ตัดกองหนุน ตัดอาวุธ ตัดการข่าว ตัดพาหนะ น้ำไฟ ยาง)
๒.ยึดตึกสูงคุมพื้นที่
๓.ยึกระยะกลาง
๔.ส่งสายข่าวเข้าหาข่าวแบบเกาะติดเจาะจง
๕.โหมข่าวก่อการร้าย
๖.ประชิดยึดที่สูงระยะใกล้
๗.ยึดระยะกลางรางรถไฟฟ้า
๘.ยิงเปิดทางระยะไกลจากตึกสูง
๙.รุกบนรางรถไฟและกลางตึก
๑๐.รุกยึดพื้นที่พื้นราบ
๑๑.ระยะแรกฆ่าคนที่ด่านยางก่อน
๑๒.บุกยิงรุกคืบไม่ช่วยคนเจ็บ ไม่เก็บศพ ปล่อยเป็นหน้าที่หน่วยหลัง
๑๓.จับกุมเมื่อคุมพื้นที่เป้าหมาย คนยอมจะรอดตาย
๑๔.วิธีจับกุม กดให้นอนราบกับพื้น มัดมือ ปิดตา
๑๕.ยึดศพทำลายศพ
๑๖.ปิดข่าวความสูญเสีย
๑๗.ศัตรูแสดงการฆ่าหมู่โชว์ชาวโลก ไม่กลัวอาญา
ไม่กลัวยูเอ็น ไม่กลัวสื่อโลก ไม่เสียดายตึก

วิเคราะห์โอกาสประชาชนจะกำจัดทหารศักดินาเพื่อปกป้องตนเอง

๑. การออกจากค่าย
๑.๑ ออกค่ายเพราะภารกิจ

อยู่เวรหน้าค่าย
อยู่เวรด่านตรวจ
ออกลาดตะเวน
ออกเคลื่อนที่สู้รบเร็ว
ออกค้น
ออกปราบ
ออกหาข่าว แทรกซึม
ออกซื้อกับข้าว/เสบียง (ขณะนี้มี ปชช.ไม่ขายเสบียงให้ทหาร มันก็แอบให้พ่อค้าเอาไปส่งในค่ายลับๆ ต้องจัดการพ่อค้าคนนั้นด้วย)
ออกตัดต่อซื้ออุปกรณ์สำนักงานเช่น อัลบั้มรูป กระดาษชำระ ม่าน ดอกไม้ฯลฯ
เปิดงานกิจกรรม
ร่วมงานเป็นเกียรติหน่วยงานอื่น
จัดนิทรรศการ ทำพิพิธภัณฑ์ทหาร
เดินทางไปทำงานจากที่พักไปค่าย/สำนักงาน/หน่วย/กอง/--
เดินทางไปร่วมประชุมหน่วยงานอื่น
ออกพัฒนาการ ปฏิบัติการจิตวิทยา ส่งเสริมอาชีพ ทำบ่อน้ำ ฯลฯ

๑.๒ ออกจากที่พักเพราะกิจวัตรประจำวัน
ส่งลูกเรียนหนังสือ
ซื้อของ
นั่งกินข้าวร้านค้า
เข้าห้องน้ำสาธารณะ
เติมน้ำมันที่ปั้ม
ไปโรงพยาบาลตรวจโรค
ไปเรียนที่มหาวิทยาลัยต่างๆ
ไปวิ่งในสนามกีฬา ออกกำลังกาย

๑.๓ ออกจากที่พักเพราะรสนิยมส่วนตัว/ภารกิจพิเศษ
เที่ยวหมอนวด กินเหล้า
หาชู้
รับจ้างคุมซ่อง/บ่อน
ทำธุรกิจ
เยี่ยมญาติป่วย/ตาย/
งานศพ ...ไปวัด…….
งานพิธีวันสำคัญ.....กลับบ้านต่างจังหวัด คนในหมู่บ้านต้องรีบจัดการ

สถานที่ลงมือจัดการทหารฝ่ายศักดินา ประชาชนต้องจัดหน่วยป้องกันตนเองประจำหมู่บ้าน ออกสำรวจพื้นที่ที่เหมาะสม

๑.ตลาดที่ซื้อกับข้าว เล่นงานคนหรือพาหนะ
๒.ลานจอดรถในห้าง มหาวิทยาลัย แหล่งบันเทิงเริงรมย์
๓.ปั้มน้ำมัน หน้าตู้เอทีเอ็ม เวลาจอดรถไปกดเงิน
๔.จัดการพ่อค้าที่ขายของให้ทหาร สายข่าว

ในวันเสาร์อาทิตย์ ทหารจะออกเที่ยวและไปเรียนหนังสือ ในมหาวิทยาลัยต่างๆ
คนพื้นที่ออกแบบวางแผนชี้เป้าให้คนต่างถิ่นจัดการ
เวลาถูกสอบถามบอกไม่รู้ ถ้าถูกจับ ต้องอ้างซัดทอดไปยังคนที่หนีหรือเสียชีวิตแล้วเท่านั้น เพื่อปกปิดทีมงาน ว่าถูกชักชวนจากใคร


การออกจากที่พัก บ้าน แฟลตทหาร
ทหารจำนวนไม่น้อยอยู่นอกค่าย มีบ้านส่วนตัว อยู่ทาวน์เฮ้า แฟลตทหาร มีญาติ มีสถานที่ทำธุรกิจนอกค่าย
จึงเป็นโอกาสของคนในชุมชนจะติดตามกำจัดได้ง่าย
โอกาสที่ทหารฝ่ายศักดินา จะทำภารกิจขนาดใหญ่จะกำจัดยากเพราะศัตรูมีอาวุธและมีหมู่คณะ

โอกาสไปทำภารกิจส่วนตัวเป็นโอกาสที่ประชาชนควรลงมือง่าย
โอกาสงานพิธี เข้าแถว ประชุม เรือนนอน แฟลตทหาร เป็นที่รวมหมู่คณะ ประชาชนสามารถกำจัดได้คราวละมากๆ ใช้ระเบิด ทุ่น คาร์บอม อาร์พีจี ไฟเผา เพื่อปกป้องประชาชนไม่ให้ทหารศักดินาพวกนี้มาฆ่าประชาชนอีก

โอกาสงานส่วนตัวเป็นโอกาสที่ประชาชนคนส่วนน้อยลงมือได้เอง ด้วยมีด เชือก ไม้ ปืนสั้น
การกำจัดทหารศักดินา ในค่ายศักดินา ตอนเข้าแถว นอน กินอาหาร ต้องใช้กลวิธีเกลือเป็นหนอน ทหารแตงโมกำจัดจากภายใน

วิธีการสังเกตใครเป็นทหารของฝ่ายศักดินา(ที่พร้อมฆ่าประชาชนเมื่อนายสั่ง)
๑.พาหนะ ให้จดทะเบียนรถสีรถ ยี่ห้อรถจากค่ายทหาร บ้านพักทหาร ขับติดตาม หรือบันทึกเส้นทางที่พบ
๒.สติ๊กเกอร์หน้ารถ ข้างรถ แสดงการผ่านเข้าออค่ายทหาร
๓.พวงกุญแจ
๔.แหวนรุ่น
๕.ริชแบรนด์
๖.รองเท้า
๗.เข็มขัด
๘.เสื้อกางเกงวอร์ม
๙.ทรงผม

วิธีสังเกตสายลับ
๑.พาหนะ ให้จดทะเบียนรถปลอม ไม่สมบูรณ์
๒.สติ๊กเกอร์หน้ารถ ข้างรถ แสดงการผ่านเข้าออค่ายทหาร
๓.พวงกุญแจ
๔.แหวนรุ่น
๕.ริชแบรนด์
๖.รองเท้า
๗.เข็มขัด
๘.เสื้อกางเกงวอร์ม
๙.สิ่งผิดปรกติ เช่น อุปกรณ์สายลับ กล้อง เทป นาฬิกา ปากกา แหวน แว่นตา เป็นกล้องจิ๋ว
๑๐.คำพูดชวนคุย เหงื่อหูฟัง ตีสนิท
๑๑.การทักทายเพื่อนสายลับด้วยกัน
๑๒.การยืนทักทายผู้บังคับบัญชานอกเครื่องแบบ
๑๓.การปลอมตัวเป็นอาชีพต่างๆ เช่น พระ เก็บขยะ ขายของ ฯลฯ

สายลับคือผู้ชี้เป้าเป็นอันตรายสูงสุด ต้องกำจัดทันทีทั้งชายและหญิง สายลับรายงานการเคลื่อนไหวของแกนนำนปช.ทุกจุดจากหลังเวทีจนถึงด่านยาง คนที่ด่านยางตายจำนวนมาก ถูกขโมยไฟแช็ค อุปกรณ์ และถูกใส่ยาพิษในกาแฟกระป๋อง สายลับหญิงปลอมเป็นนักข่าวล่อเสธแดง ทหารปลอมเป็นยามเวิร์ลเทรด มีหญิงแสดงเป็น “คนถูกยึดบัตรประชาชน”แล้วให้สัมภาษณ์สื่อใส่ร้าย นปช.ว่า “ยึดบัตรไว้ ไม่ให้กลับบ้าน”

หน่วยสายลับ ๕ ประเภท
๑.ชี้เป้า
๒.หาข่าวทั่วไป
๓.ประกบคนเจาะจง
๔.ติดตามสะกดรอย
๕.ต้านการข่าวปล่อยข่าวลือ หรือปฏิบัติการ io (ลวงทิศทางข่าวสารเพื่อให้ประมาท เพื่อให้สู้ไม่เต็มที่)

การเก็บสายลับหรือทหารที่ออกมานอกค่ายแบบตัวต่อตัว....ลงมือไวหนีไว
๑.ใช้มีดปลายแหลมขนาด ๕-๖ นิ้วแทงคอ ไหปลาร้า หัวใจ
๒.ถ้าทหารตัวเล็กอาจใช้ลวด เชือกรัดคอ ท่อนไม้ เหล็กแป็บ ขวาน พร้า อีโต้ หน้าไม้
๓.ปืนสั้น ปืนแก๊ป
๔.คัดเตอร์เชือดลำคอ
๕.ภาคใต้ใช้อีโต้ มีดกรีดยาง ขวาน ไม้หน้าสามติดตะปู

โอกาสลงมือ จังหวะขึ้น-ลงรถ ออกจากบ้าน เข้าห้องน้ำ ซื้อของ ทอนตังค์ นั่งร้านก๋วยเตี๋ยว นั่งร้านกาแฟ หลอกให้หยุดรถมอเตอร์ไซค์ หาไม้ขวางแล้วซุ่มรอ
ในเขตที่มวลชนเข้มแข็งให้ลงมือเมื่อมันเข้ามาในเขต (ต้องกำจัดสายลับก่อน--)
ต้องวางแผนให้ดี อย่าประมาท ออกแบบการทำลายล้างตามขนาดและจำนวนของศัตรู 1 คน 2 คน 1 หมู่ฯลฯ .....

ใครบ้างที่จะสังเกตและรายงานข่าวสารการเคลื่อนไหวของทหาร
-มอเตอร์ไซค์รับจ้างหน้าซอยที่อยู่อาศัยของทหาร
-แท็กซี่
-เด็กบริการตามสถานเริงรมย์
-ช่างก่อสร้าง ช่างประปา ช่างไฟ ช่างแอร์ พนักงานกวาดขยะ
-เด็กปั๊ม -พ่อค้าแม่ค้า -เพื่อนนักเรียนที่พ่อแม่เป็นทหาร
....ให้จดทะเบียนรถทุกคันใส่สมุดพก เช่น รถฮอนด้า ซีอาร์วี.. ทะเบียน พน.0000 สีดำ
พบที่หน้าค่าย....กรมสื่อสาร........เวลา..........วันที่.............(พบอีกครั้งที่.......) มีคนนั่ง...3 คน(ญ..ช..)
บันทึกให้มากที่สุด...วันหนึ่งได้ใช้ประโยชน์แน่นอน

แนวคิด : ทหารทุกคนทั้งชายหญิงคือกาฝากสังคมและสนับสนุนโจร และร่วมกันทำงาน แบ่งหน้าที่กัน

ฝ่ายสนับสนุน ฝ่ายจิตวิทยา กอ.รมน. ทหารฝ่ายพัฒนา ฝ่ายส่งเสริมอาชีพ ฝ่ายทำพิพิธภัณฑ์ ฯลฯ คือศัตรูที่แฝงเร้นฆ่าจิต ฆ่าปัญญาและฆ่ากายประชาชน ทำหน้าที่หาข่าว เสแสร้งทำทีมีมนุษย์สัมพันธ์

กำจัดทุกที่ทุกตัวที่มีโอกาส ลงมือก่อน ไม่รอการประกาศยุทธการ ไม่รอให้มันประกอบหน่วย ไม่รอให้มันแต่งตัวใส่ชุดทหารถือปืน....ทหารที่เรียนตามมหาวิทยาลัยคือมันสมองโจรให้รีบกำจัด
................................................................................
ทหารมีกรมยุทธศึกษา คนหลายพันคน ศึกษาวิธีการฆ่าประชาชนทุกวัน ศึกษายุทธวิธีทุกรูปแบบ ยิงหัวระยะใกล้ไกล ยิงบนรถฯลฯ มันฝึกหมด
สร้างแบบจำลองเข้าสังหารประชาชนที่ราชประสงค์อย่างชำนาญ
................................................................................

ในอนาคต ประชาชนควรจัดหน่วยป้องกันตนเองไว้อย่างลับๆ ปฏิบัติการลับได้ และประชาชนทุกหมู่บ้านควรต้องลงขันกัน 5-6 พันบาท ติดตั้งกล้องวงจรปิดทุกหมู่บ้าน เพื่อตรวจจับทหาร สายลับที่เข้าไปในหมู่บ้าน จับตาดูการประสานงานระหว่างสายลับในชุมชนกับสายลับนอกชุมชน แล้วหาทางกำจัดง่าย.........

เพื่อความปลอดภัยต้องติดกล้องวงจรปิดทุกหมู่บ้าน ทั้งส่วนตัว ส่วนรวม และวางกล้องให้มากที่สุด..วางเป็นระยะใกล้ไกล...กำหนดสัณญาณ..เตือนเวลามีทหาร สายลับเข้าหมู่บ้าน...

สมัยก่อนที่โรงเรียนจีนมีสัญญาณระฆัง..เตือนให้หลบ...ติดตั้งทั้งกล้องปลอมและกล้องจริง มีซ่อนกล้อง........ในทุกชุมชนเมืองก็ต้องทำกล้องวงจรปิด....ตั้งหน่วยจู่โจมพิเศษกระชับพื้นที่ศักดินา ปชป. ฯลฯ ไม่ให้ออกไปในที่โล่งแจ้ง หน่วยละ 3-5 คน....

*แนวคิด ทำไมทหารฆ่าประชาชน

เหตุที่ศักดินากดขี่ขูดรีดประชาชนได้อย่างยาวนานทุกวัน เพราะมีทหารทั้งกองทัพปกป้องคุ้มครองการกดขี่ขูดรีดเอาไว้ ทหารทั้งกองทัพคือศัตรูของประชาชนคนจน

ทหารแต่ละคนที่ประจำการในกองทัพทั้งทหารชายและทหารหญิงต่างทำหน้าที่สอดประสานการกดขี่ขูดรีดร่วมกันทั้งสิ้น และจิตสำนึกของคนเหล่านี้เป็นจิตสำนึกไพร่ปกป้องนาย และเป็นอันตรายต่อประชาชนที่ถูกปล้นทรัพย์โดยกองทัพทั้งกองทัพ

แม้การปล้นอำนาจและฆ่าประชาชนจะมีเพียงบางหน่วย แต่หน่วยสนับสนุนมีทั้งกองทัพ หากทหารผู้ที่ไม่ทำร้ายประชาชนแล้วจะอ้างว่าอยู่เฉยเป็นกลาง ย่อมเท่ากับการมองดูการปล้นฆ่าเจ้าทรัพย์แบบนิ่งดูดาย ... ทั้งๆที่ทหารทุกคนกินอยู่จากผลผลิตของคนจนทุกคนแล้วทำไมไม่ช่วยคนจน

ประชาชนจึงต้องกำพจัดทหารประจำการคนใดก็ตามที่มีโอกาส .. เว้นแต่ทหารเชลยที่ถูกจับมัดและคุมขังไว้ได้แล้วเท่านั้น..ทหารที่ปรากฏตัวในที่สาธารณะคือศัตรูที่ออกมาทำภารกิจจิตวิทยา หาข่าว หากิน หาความสำราญ หลอกลวง และฆ่าประชาชน

โดยฐานะการเมือง ทหารคือผู้ค้ำบัลลังก์ให้ศักดินากินฟรี

โดยฐานะทางเศรษฐกิจ ทหารคือกาฝากสังคม ไม่มีผลผลิตจากการบริการฆ่าฟันประชาชน

โดยทางสังคม ทหารเป็นกลุ่มคนที่เห็นแก่ตัว เสพสุข คุกคาม เป็นนักฆ่าโดยอาชีพ เป็นนักปล้นสะดม หรือโจร มันฆ่าประชาชนทุกคนที่ต่อสู้ขัดขืนมัน

โดยฐานนะทางจิต ทหารเป็นผู้มีภาวะจิตระดับสัตว์นรก และทหารชั้นผู้น้อยจะอยู่ระดับสัตว์เดรัจฉานเป็นฆาตกรต่อเนื่อง ทหารสัตว์เดรัจฉานมันเชื่องมงายว่าศักดินาหาแผ่นดินให้ไพร่

โดยฐานะทางภูมิปัญญา ทหารเป็นกลุ่มคนที่ฉลาดในการฆ่าประชาชน ในยามที่ประชาชนลุกขึ้นสู้ทหารจะเข้าไปฆ่าทันที ในยามปกติที่คนยอมหาเลี้ยง ทหารมันก็เฝ้ายามกดดัน ควบคุม ประชาชนให้หาส่งให้มันกิน

โดยฐานะทางชนชั้น ทหารคือองค์กรที่สร้างขึ้นโดยโจรศักดินา มีวัตถุประสงค์เพื่อปล้นทรัพย์รายวันรายเดือนรายปีจากผลผลิตร่วมของสังคม ปกป้อง รักษาทรัพย์ที่ปล้นมา และปล้นเพิ่ม

เดิมทหารประกอบด้วยไพร่ที่ทรยศต่อประชาชน ไพร่ที่คัดสรรว่ายินยอมฆ่าประชาชนซึ่งเป็นเจ้าทรัพย์และเนรคุณชนชั้นไพร่ได้ ทหารของศักดินาจึงมีลักษณะของโจร

กองทัพไม่ใช่ของสาธารณะที่ชนชั้นใดก็เอาไปใช้ประโยชน์ได้ และย่อมไม่ใช่องค์กรของไพร่อย่างเด็ดขาด(ประชาชนไทยไม่ได้ตั้งกองทัพประจำการเลย/เพิ่งเคยตั้ง ทปท./และเสรีไทย เท่านั้น)

องค์กรทหารศักดินา จึงไม่มีประโยชน์ต่อประชาชนเลย ไม่มีข้าวปลาอาหาร ไม่มีเสื้อผ้ายารักษาโรค ไม่มีถนนหนทาง ไม่มีความเจริญของปัจจัยสี่ที่งอกออกมาจากหน่วยทหารไม่ว่าหน่วยใด..... เพราะมันคือปลิงสูบเลือด เป็นกาฝากที่ไพร่ต้องหาเลี้ยง พวกทหารอยู่ปลายน้ำ ไม่ใช่องค์กรต้นน้ำหาทรัพย์หาแผ่นดินให้ประชาชน แต่กลับตรงข้ามที่หาทรัพย์หาแผ่นดินให้โจร รักษาแผ่นดินให้โจร มิใช่ให้ไพร่

ประชาชนที่ไปเป็นทหารแล้วยิงประชาชนคือประชาชนทรยศ ทหารที่มาจากประชาชนที่รักประชาชนต้องฆ่าเจ้านายและโจรศักดินา

ปัจจุบัน ทหารมี 6 แสนคน รบได้-ยิงประชาชนได้ 2 แสนคน กองหนุนธุรการ หาเสบียงส่งอีก 4 แสนคนทั้งทหารชาย ทหารหญิง ทหารแก่ ลูกจ้างและสายลับ ล้วนเป็นนักปล้นร่วมที่แบ่งงานกันทำ

ทหารได้งบประมาณปีละราว 2 แสนล้านบาท มากกว่าครู 6 แสนคนและนักเรียน 15 ล้านคนหลายเท่า

การฆ่าประชาชนโดยไม่เลือกหน้า ไม่เลือกเพศและวัย ก็เพื่อให้ประชาชนที่เหลือกลัวตายแล้วหาเลี้ยงพวกมันและศักดินาตลอดไป.
กรรมกร และชาวนา 40 ล้านคน พ่อค้า ลูกจ้าง ชนชั้นกลาง 20 ล้านคน จะหาเลี้ยงทหารเปรต6 แสนคนต่อไปหรือไม่?...........................

ทหารจะแสดงละครเป็นนักพัฒนา กองพันพัฒนา ช่วยน้ำท่วม หน่วยทหารพัฒนา ทำพิพิธภัณฑ์ ส่งเสริมอาชีพนำเที่ยว ฯลฯ ล้วนเป็นงานหลอกลวง มอมเมา และหาข่าว
แนวทาง เปิดเผยให้ประชาชนรับรู้ยุทธวิธีให้กว้างขวางทุกวิธี เพื่อค้นหาวิธีกำจัดในทุกโอกาส
.......... จังหวัดไหนมวลชนเข้มแข็ง ให้ลงมืออย่างรวดเร็วด้วยอุปกรณ์ง่ายๆ เช่น อีโต้
...........จังหวัดไหนมวลชนไม่ตื่นตัวมาก ไม่มีมวลชน ให้แอบซุ่ม หรือวางกับดัก
...........ควรไขว้จังหวัด คนในพื้นที่วางแผน สำรวจงาน คนนอกพื้นที่เข้าทำงาน
...........ทหารแตงโมต้องสร้างผลงานเพื่อความบริสุทธิ์ใจและต้องไม่แต่งตัวหรือออกมาจากค่ายจะถูกลูกหลง และถ้าเป็นแตงโมจริงต้องกำจัด ผบ.ในค่าย หรือลงมือจัดการผบ.ทุกระดับ
...........สกัดพ่อค้าที่ขายอาหารให้ทหาร ออกใบปลิวเตือนพ่อค้า
...........ทหารที่เรียนในมหาวิทยาลัยให้จดทะเบียนรถ หาโอกาสเก็บ หรือทำลายรถ
.......รถทหารจะมีสติ๊กเกอร์ผ่านประตูค่าย มีสัญลักษณ์หมวก ...เสื้อสกรีนสังกัดฯลฯ

แนวโน้ม..... ทหารจะซ่อนตัว ไม่แต่งตัวในที่สาธารณะ ซุ่มกินฟรี 3 มื้อในค่าย ต่อไป
และจะมุ่งบังคับ มอบงานให้ตำรวจมาเป็นศัตรูกับ นปช. แทน....ตำรวจบางส่วนจะถูกบีบให้หาข่าวและทำร้าย นปช. ปิดวิทยุ ตั้งด่านค้นอาวุธ ตำรวจมะเขือเทศจะลดลง...ตำรวจที่หันกลับรับใช้ทหารศักดินาจะเพิ่มขึ้น

ผู้ว่า นายอำเภอ ข้าราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต. เทศบาล จะถูกบีบให้ร่วมมือหาข่าว เพื่อทหารจะได้มีคนมาช่วยสู้กับประชาชนมากขึ้น…
มันจะซ่อนตัว เอาฝ่ายปกครองและตำรวจบังหน้า .... ทำให้ประชาชนต้องต่อสู้กับองค์กรของศักดินา คุก ศาล ทหารตำรวจ ฝ่ายปกครองอย่างครบวงจร.......................
......................................

เลิกเชื่อว่าทหารคือรั้วของชาติ มันคือโจรปล้นกลางเมือง ไม่ใช่เป็นรั้วของประชาชน…ทหารไม่ได้หาแผ่นดินให้ประชาชน.. อย่าคิดแต่โทษทหารชั้นผู้ใหญ่หรือคนบงการ ความจริงคือทหารทั้งกองทัพหากินบนชีวิตประชาชนทุกคน..พลทหารมีความดุร้าย ขาดสมอง เป็นอันตรายต่อประชาชนมาก เพราะถือปืน เป็นคนตัดสินใจยิงประชาชนที่หัวและลำตัว มีความพร้อมในการฆ่า
เจ้านายมีหน้าที่สั่งมันหยุดยิง ถ้าไม่สั่งหยุดมันจะกราดยิง..

ประชาชนจ้างทหารเป็นยามเฝ้าประเทศ...แต่มันกลับเป็นเจ้านาย บังคับและปล้นเจ้าทรัพย์เสียเอง

ทำลายทิ้งทั้งกองทัพด้วยกองกำลังป้องกันตนเองของประชาชน
ประชาชนป้องกันประเทศได้เองแบบเวียดนาม ไม่ต้องมีกองทัพโจร
ยุคใหม่..ไม่มีใครจะรุกราน ถึงรุกรานก็ไม่กลัวต่างชาติ...แบบญี่ปุ่นไม่มีกองทัพยังรักษาประเทศได้...ถ้ามีศึกประชาชนก็ต้องสู้อยู่แล้ว...................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น