รู้ทันศัตรู(4)
โดย พอน ตาไว
ตามตำราพิชัยสงคราม ของท่านซุนหวู่ เขียนไว้ว่า
“การที่จะล่วงรู้ถึงความในของข้าศึกนั้น
จงอย่าถือเอาจากภูติพรายหรือเทพดาอารักษ์
อย่าคาดคะเนจากปรากฏการณ์
หรือลางเหตุเพียงผิวเผิน
อย่าพิสูจน์จากมุมฉากโคจรแห่งวิถีดาวเดือน
จำเป็นต้องรู้จากบุคคล
จึงจะนับว่ารู้ความในของข้าศึกอย่างแท้จริง”
ในสมัยโบราณมีการใช้จารชนหรือไส้ศึก ๕ ประเภท ได้แก่ จารชนชาวพื้นเมือง จารชนไส้ศึก จารชนซ้อน จารชนฝ่าความตาย และจารชนผู้กลับเป็น ซึ่งมีลักษณะตามคุณสมบัติพิเศษ เพื่อให้ได้ข่าวสารของฝ่ายตรงข้าม ซึ่งการทหารในปัจจุบันได้ศึกษาตำราพิชัยสงครามของซุนหวู่ เป็นหลักการเบื้องต้น
ในปัจจุบันฝ่ายชนชั้นศักดินา ก็ได้ใช้จารชนหรือไส้ศึกเข้าทำหน้าที่ในหมู่คนเสื้อแดงจำนวนมาก โดยสามารถจำแนกประเภทตามภารกิจและลักษณะสำคัญของไส้ศึก ที่พบได้ ดังนี้
๑.ไส้ศึก ส่งไปเอง โดยมุ่งเข้าประกบใกล้ชิด บางครั้งก็นำด้วยเรื่องชู้สาว จนถึงกับมีความสัมพันธุ์เป็นสามีภรรยากัน แต่แท้จริงคือการหาข่าว และอาจถึงกับสังหารกันได้ตามภารกิจที่มอบหมาย
๒.จ้างคนของศัตรูให้เป็นไส้ศึก โดยจ้างคนของศัตรูในระดับต่างๆ ตั้งแต่คนขับรถ แม่บ้าน คนเสิร์ฟกาแฟ ไปจนถึงเสมียน เจ้าหน้าที่และแกนนำ ซึ่งทำได้ง่ายๆ เพียงดูว่าจะเจาะเข้าที่ใครได้บ้าง แล้วให้ผลประโยชน์เพิ่มอีก จากค่าจ้างของศัตรู ซึ่งขั้นต้นจะจ้างคนที่มีตำแหน่งต่ำๆ อยู่นอกสายตา และคาดไม่ถึง หรือจ้างผู้นำองค์กรนั้นเสียเลย เป็นต้น
๓.ไส้ศึกสองหน้า หรือ สายลับซ้อน เป็นการเอาไส้ศึกของศัตรู ให้ใช้ทำสองหน้า- อาจจะจับได้แล้วคาดโทษหรือให้ผลประโยชน์ เพื่อให้เปลี่ยนใจขายข่าวให้อีกฝ่ายหนึ่ง สายลับเช่นนี้ มีอันตรายมาก เพราะมีความลับและประสบการณ์มาก ซึ่งมีตัวอย่างจาก ซีไอเอ ที่ต้องตายที่ปากีสถาน-เพรีไอเอ วางใจที่จะจ้างสายลับฝ่ายตรงข้ามมาทำงานใกล้ชิดกับตน ในที่สุด สายลับระดับสูงของซีไอเอ ก็ถูกสังหารจำนวนมาก
๔. สายลับเฉพาะกิจ มีภารหน้าที่จารกรรมข้อมูล ชี้เป้าบุคคล ขโมยข้อมูล ทำลายจุดยุทธศาสตร์ อาคาร คน ข้อมูล หรือ สร้างเงื่อนไขเอาชนะทางยุทธวิธีฝ่ายตรงข้าม
๕.สายลับโง่ เป็น สายลับที่ถูกหลอกให้ทำบางเรื่อง-หรือถูกใช้ให้หาข้อมูล เพื่อไขข่าวฝ่ายตรงข้ามบางเรื่อง โดยที่คนที่เป็นสายลับก็ไม่ทราบเจตนา ความสำคัญของข่าว และผลกระทบ สายลับโง่ มักจะซื่อสัตย์และเก็บความลับได้ เพราะทำไปแบบไม่รู้ความสำคัญที่สลับซับซ้อน บางเว็ปไซด์ เป็นเครือข่ายให้กับซีไอเอ เพราะเอาเงินวุฒิสภาอเมริกามาใช้จ่าย บางคนได้ทุนจากศักดินา หรือจ้าวให้ไปศึกษาต่อระดับปริญญาเอก หรือโท เพื่อทำวิทยานิพนธ์ในหัวข้อที่ศัตรูผู้ให้ทุนต้องการ
๖.สายลับฉวยโอกาสหักเหทิศทาง เช่น มาชักจูงให้ประชาชนเดินทางไปสู่มุมอับ จนเกิดความพ่ายแพ้ เช่น แกนนำ นปช.บางคนที่ชักชวนให้คนเสื้อแดง ไปตั้งป้อมค่ายที่สี่แยกราชประสงค์จนพ่ายแพ้ -นักข่าวหญิงที่พยายามชักชวนเสธแดงให้ไปยืนสัมภาษณ์ในจุดยิง -พิธีกรในรายการวิทยุอินเตอร์เน็ต พูดให้คนเสื้อแดงต่อสู้เพื่อส่งต่อการปกครองให้ชนชั้นนายทุนบ้าง ให้ยังคงระบอบราชาธิปไตยไว้เพียงเปลี่ยนตัวกษัตริย์บ้าง ให้ประชาชนเป็นหางเครื่องชนชั้นนายทุนบ้าง ปล่อยข่าวว่าชนชั้นศักดินากำลังยอมแพ้ เตรียมขนทรัพย์หนีแล้วบ้าง ฯลฯ
๗.สายลับอินเตอร์เน็ต แบบแฮ็กข้อมูล หรือขโมยข้อมูลทางคอมพิวเตอร์
๘.สายลับอินเตอร์เน็ต แบบหาบุคคล โดยมีเป้าหมาย คนที่เป็นอันตรายต่อศักดินา คนที่พูดหมิ่น เขียน และลงภาพหมิ่นศักดินา และคนที่เป็นฮาร์ดคอร์หรือคนที่พร้อมจะต่อสู้ตอบโต้ ในแนวทางสงครามประชาชน สายลับเหล่านี้จะร่วมเขียนบทความ คามคิดเห็น แบบตามน้ำ (ตามใจ) เพื่อเกาะเป็นเพื่อนซึ่ง สังเกตได้จากการโพสแบบไม่มีอารมณ์ร่วมในเหตุการณ์ หรือมักเออออหาเพื่อนสนิทเพื่อหาข้อมูลต่อเนื่องในวันต่อๆไป
๙.สายลับอินเตอร์เน็ต และใช้เทคโนโลยี แบบมัลติมีเดี่ย โดยไม่ปรากฏตัวตน จะซ่อนตัวหาข่าวทางเทคโนโลยีแบบผสมผสานกับเครื่องมือหลายชนิด เช่น กล้องวงจร ปิด กล้องไร้สาย กล้องกระดุม/GPRS/การดักฟังทางโทรศัพท์ การส่งโปรแกรมรีโมทคอนโทรลเพื่อทราบข้อมูลจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ /การทำหน้าเว็ปปลอม หรือเลียนแบบเว็ปให้หลงเปิดเพื่อดูไอพี ฯลฯ
๑๐.สายลับแบบต่อต้านข่าวกรอง ซึ่งศักดินานิยมทำกันมาก ได้แก่ การปล่อยข่าว การสร้างข้อมูลเท็จ การลวงทิศ เช่น จะฆ่าบอกไม่ฆ่า หรือ ฆ่าแล้วบอกว่าไม่ได้ฆ่า ศักดินาตายแล้วบ้าง อภิสิทธิ์หนีไปแล้วบ้าง มีทหารอเมริกามารอช่วยคนเสื้อแดงแล้ว เป็นต้น
๑๑ .สายลับแบบวิชาการ จะหาข้อมูลแบบทำโพลบ้าง ทำวิจัยบ้าง และสามารถใช้การวิเคราะห์ระดับสูง ในการจับถ้อยคำ (คีย์เวิร์ด) เพื่อวิเคราะห์ ความลับ หรือความจริงที่แฝงในการสื่อสาร
๑๒.สายลับนักวิเคราะห์ระดับยุทธศาสตร์ จะมีการมุ่งหาเครือข่ายและองค์กรลับฝ่ายตรงข้าม มุ่งหายุทธศาสตร์และยุทธวิธีลับของฝ่ายตรงกันข้าม
๑๓ .สายลับนักถอดรหัสลับ โค๊ดลับ ภาษาลับ เพื่อแปลความในภาษาที่มีการสื่อสารของฝ่ายตรงข้าม -โดยจะดักจับสัญญาณการสื่อสารใหม่ๆ ทุกระบบ เพื่อควานหาข้อมูล จัดทำรายงาน แผนการ และคำสั่งลับสุดยอดของฝ่ายตรงข้าม เช่น ข้อมูลแผนยุทธการ-การวางกำลัง บุคคล สถานที่ วัน เวลาที่จะปฏิบัติการ เป็นต้น
สายลับ ไส้ศึก หรือจารชน เหล่านี้ ได้มีการวิวัฒนาการไปตามการค้นคิดและความเจริญทางเทคโนโลยีใหม่ๆ อีกหลายรูปแบบ เช่น สายลับทางดาวเทียม สายลับจากเครื่องบินล่องหน สายลับแบบลวงล่อเอาความลับ โดยใช้จิตวิทยา เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อประชาชนคนเสื้อแดงติดอาวุธทางปัญญา ได้ศึกษาเรียนรู้กลวิธีของสายลับและลงมือควานหาสายลับได้แล้ว จะทำให้ สายลับทุกชนิดของฝ่ายศัตรูใช้ไม่ได้ผล และจักต้องถูกกำจัดทำลายล้างก่อนเป็นด่านแรกการต่อสู้ ซึ่งถือเป็นการ ทำให้ศัตรูตาบอดหูหนวก ทำลายคนชี้เป้า ทำลายหูทิพย์ตาทิพย์ของศัตรู จะทำให้การต่อสู้กับสมุนศักดินาที่ถืออาวุธได้ง่ายขึ้นเพราะมันหาเป้าไม่เจอ ซึ่งย่อมทำให้สงครามชนชั้นนี้ ประชาชนจะเป็นฝ่ายชนะในที่สุด.
..................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น