จากเฟสบุคคุณอานนท์ นำภา
ลุงดวง คนยืน คืออีกหนึ่งเสื้อแดงที่ถูกพิพากษาจำคุก ๒๐ ปี ในคดีเผาศาลากลางจ.มุกดาหาร
ลุงดวงคนยืนเป็นเสื้อแดงที่เป็นชาวบ้านในต่างอำเภอ แน่นอนว่าแกไม่เคยแม้แต่ครั้งเดียวที่จะเข้ามาร่วมชุมนุมที่กรุงเทพมหานคร เพราะแกต้องดูแลเมียที่มีอาการทางประสาท และส่งลูกอีกสามคนเรียนหนังสือ ไร่อ้อย และการรับจ้างทั่วไปคืออาชีพที่หล่อเลียงทั้ง ๕ ชีวิต
วันที่ ๑๙ พฤษภา ๕๓ ลุงดวง เดินทางมาในเมืองเพื่อมาซื้อปุ๋ย และพาภรรยามารักษา พอมาถึงบริเวณศาลากลางเห็นผู้คนชุมนุม แกจึงเข้าไปยืนดูเหตุการณ์ แลเมื่อแกนนำได้แจ้งแก่ผู้ชุมนุมว่า ได้เจรจากับเจ้าหน้าที่ให้ขนยางเข้าไปในรั้วศาลากลางเพื่อทำเป็นบังเก้อร์สำหรับชุมนุมกดดันได้ แกจึงช่วยผู้ชุมนุมคนอื่นๆ ขนยางเข้าไปในสนามหน้าศาลากลาง
"ผมทนไม่ได้ที่เห็นข่าวทุกวันว่ามีการฆ่าเสื้อแดงตายที่กรุงเทพ ผมอยากไปช่วยเหมือนกันแต่ก็ติดเรื่องที่บ้านนั่นแหละ วันนั้นเราชุมนุมกันค่อนสงบ ผมออกจากบริเวณศาลากลางก่อนที่จะมีการเผาด้วยซ้ำ พอพาเมียไปหาหมอ และซื้อปุ๋ยเสร็จก็กลับมารอรถ และเห็นตำรวจวิ่งไล่กลุ่มผู้ชุมนุมมาทางผมกับเมีย เขากรูเข้ามาทุบผมด้วยไม้ ผมเห็นเมียผมร้องไห้ แล้วเข้าก็เอาผมไปขังในรถกลางแดดถึงสามวันก่อนเอาเข้าเรือนจำ"
ลมหนาวแรกเริ่มพักมาที่มุกดาหารในปีนั้น ลุงดวงต้องได้รับข่าวร้ายว่าลูกชายคนกลางต้องออกจากโรงเรียนกลางคันเพราะไม่มีเงินไปโรงเรียน ไร่อ้อยแห้งผาก...
ลุงดวงได้รับการประกันตัวโดยการช่วยเหลือด้านหลักทรัพย์จากเสื้อแดงท่านนึงที่ให้หยิบยืมเงินจากกรุงเทพ และต่อสู้คดีเรื่อยมาไม่ได้หลบหนีไปไหน ทั้งยังยืนยันว่าตนไม่ได้ทำความผิดตามที่กล่าวหา
แต่พลันที่ลมหนาวแรกของปี ๕๔ หวนมา ลุงดวงได้ถูกศาลพิพากษาว่าเผาศาลากลาง และพิพากษาจำคุก ๒๐ ปี ...
ผมยังไม่ได้ยินข่าวเรื่องครอบครัวลุงดวง นับแต่วันฟังคำพิพากษา...
ที่มา fb อานนท์ นำภา
ลุงดวง คนยืน คืออีกหนึ่งเสื้อแดงที่ถูกพิพากษาจำคุก ๒๐ ปี ในคดีเผาศาลากลางจ.มุกดาหาร
ลุงดวงคนยืนเป็นเสื้อแดงที่เป็นชาวบ้านในต่างอำเภอ แน่นอนว่าแกไม่เคยแม้แต่ครั้งเดียวที่จะเข้ามาร่วมชุมนุมที่กรุงเทพมหานคร เพราะแกต้องดูแลเมียที่มีอาการทางประสาท และส่งลูกอีกสามคนเรียนหนังสือ ไร่อ้อย และการรับจ้างทั่วไปคืออาชีพที่หล่อเลียงทั้ง ๕ ชีวิต
วันที่ ๑๙ พฤษภา ๕๓ ลุงดวง เดินทางมาในเมืองเพื่อมาซื้อปุ๋ย และพาภรรยามารักษา พอมาถึงบริเวณศาลากลางเห็นผู้คนชุมนุม แกจึงเข้าไปยืนดูเหตุการณ์ แลเมื่อแกนนำได้แจ้งแก่ผู้ชุมนุมว่า ได้เจรจากับเจ้าหน้าที่ให้ขนยางเข้าไปในรั้วศาลากลางเพื่อทำเป็นบังเก้อร์สำหรับชุมนุมกดดันได้ แกจึงช่วยผู้ชุมนุมคนอื่นๆ ขนยางเข้าไปในสนามหน้าศาลากลาง
"ผมทนไม่ได้ที่เห็นข่าวทุกวันว่ามีการฆ่าเสื้อแดงตายที่กรุงเทพ ผมอยากไปช่วยเหมือนกันแต่ก็ติดเรื่องที่บ้านนั่นแหละ วันนั้นเราชุมนุมกันค่อนสงบ ผมออกจากบริเวณศาลากลางก่อนที่จะมีการเผาด้วยซ้ำ พอพาเมียไปหาหมอ และซื้อปุ๋ยเสร็จก็กลับมารอรถ และเห็นตำรวจวิ่งไล่กลุ่มผู้ชุมนุมมาทางผมกับเมีย เขากรูเข้ามาทุบผมด้วยไม้ ผมเห็นเมียผมร้องไห้ แล้วเข้าก็เอาผมไปขังในรถกลางแดดถึงสามวันก่อนเอาเข้าเรือนจำ"
ลมหนาวแรกเริ่มพักมาที่มุกดาหารในปีนั้น ลุงดวงต้องได้รับข่าวร้ายว่าลูกชายคนกลางต้องออกจากโรงเรียนกลางคันเพราะไม่มีเงินไปโรงเรียน ไร่อ้อยแห้งผาก...
ลุงดวงได้รับการประกันตัวโดยการช่วยเหลือด้านหลักทรัพย์จากเสื้อแดงท่านนึงที่ให้หยิบยืมเงินจากกรุงเทพ และต่อสู้คดีเรื่อยมาไม่ได้หลบหนีไปไหน ทั้งยังยืนยันว่าตนไม่ได้ทำความผิดตามที่กล่าวหา
แต่พลันที่ลมหนาวแรกของปี ๕๔ หวนมา ลุงดวงได้ถูกศาลพิพากษาว่าเผาศาลากลาง และพิพากษาจำคุก ๒๐ ปี ...
ผมยังไม่ได้ยินข่าวเรื่องครอบครัวลุงดวง นับแต่วันฟังคำพิพากษา...
ที่มา fb อานนท์ นำภา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น