News online

กลับไปยังหน้าหลักเพื่อสนทนา C-Box ดู TV และฟังวิทยุ ได้ที่

วันจันทร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2555

พลังคนเสื้อแดงต้องมิใช่เพียงแค่เครื่องมือของกลุ่มทุน


คุณ ทักษิณจะกลับบ้านอย่างมีเกียรติและศักดิ์ศรี ก็มิใช่เพราะเกิดจากการปรองดองหรือนิรโทษกรรม แต่เกิดจากการร่วมมือกับกลุ่มพลังประชาธิปไตยคนเสื้อแดง นำประชาธิปไตยที่เป็นของประชาชนกลับคืนสู่ประชาชน 

โดย  TAWANSEEDANG


ขบวน การคนเสื้อแดงผู้มุ่งหวังต้องการเห็นประเทศเปลี่ยนแปลงเป็นประชาธิปไตยที่ ประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจ คนไทยในสังคมทั้งประเทศหลุดพ้นจากความอยุติธรรม ความผูกขาดคลอบงำ ความเอารัดเอาเปรียบของกลุ่มทุนขูดรีด (ทุนผูกขาด) จะต้องคิดไกลนอกกรอบกว่าที่เป็นอยู่ 

ต้องใส่แว่นตาหลายมิติ เพื่อไม่ให้ถูกหลอกใช้เป็นเพียงเครื่องมือในการช่วยโค่นล้มเปลี่ยนฐานอำนาจ จากกลุ่มหนึ่งไปสู่กลุ่มหนึ่ง หรือจากทุนหนึ่ง(ทุนนิยมผูกขาด)ไปสู่อีกทุนหนึ่ง (ทุนเสรีนิยม) โดยประชาชน ไม่ได้รับการสนองตอบแท้จริงตามวัตถุประสงค์ ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างวงจรอุบาทว์ของสังคมไทยควบคู่กับประชาธิปไตย  

เพราะในความเป็นจริง ไม่ว่าทุนผูกขาดหรือทุนเสรีนิยม คือระบบทุนผู้เอารัดเอาเปลียบและมุ่งหวังจะได้ผลประโยชน์สูงสุดจากคนในสังคม เหมือนกัน เพียงอาจจะมีวิธีการแตกต่างซับซ้อน หรือความมีคุณธรรมจริยธรรมมากน้อยกว่ากันเท่านั้น 

ซึ่งสุดท้ายประชาชนคือเหยื่อผู้รับชะตากรรม ต้องตกอยู่ในสภาพถูกกดขี่ขูดรีด เอารัดเอาเปรียบอย่างที่เป็นมา โดยเห็นได้จากสภาพที่เกิดขึ้นในประเทศที่มีโครงสร้างเศรษฐกิจเสรี เช่น อเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย และอีกหลายประเทศในโลก ที่ประชากรดูเหมือนจะมีภาวะทางโอกาส ภาวะการจ้างงานสูง มีตัวเลขทางรายได้และมีกำลังการซื้อสูง 

แต่ขณะเดียวกัน ภาวะทางเศรษฐกิจและค่าครองชีพตามโครงสร้างระบบทุนนิยมเสรี ที่ประชาชนไม่มีส่วนกำหนดและรัฐไม่สามารถควบคุม เกิดช่องว่างของรายรับไม่สมดุลย์กับรายจ่าย ประชาชนยากจนลงและเจ้าของทุนร่ำรวมมากขึ้นเหมือนเดิม

ตั้งแต่ประเทศมีการปกครองในระบอบราชาธิปไตย ที่อำนาจและผลประโยชน์ทุกอย่างอยู่ในมือของคนคนเดียว นายทุนศักดินา (ทุนนิยมขูดรีด) กอบโกยความร่ำรวยและผลประโยชน์จากประชาชน ด้วยการคลอบคุมผูกขาดฐานอำนาจการบริหาร การปกครองและโครงสร้างการเศรษฐกิจของประเทศ อย่างยาวนานหลายทศวรรษ 

ต่อ มาเกิดเงื่อนไขทางสังคมที่ต้องเปลี่ยนแปลงสู่ระบอบประชาธิปไตย เพื่อให้เกิดภาพประชาธิปไตยตามแบบอารยะประเทศ ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข หรืออาจเรียกว่า ระบอบเผด็จการ + ราชาธิปไตย + ทุนนิยม(ดูตารางเปรียบเทียบด้านล่างและไดอแกรรมด้านบน) ถูกสร้างขึ้น

โดยกลุ่ม จารีตนิยมเก่าร่วมกับ กลุ่มอำนาจนิยมเผด็จการ กลุ่มอนุรักษ์นิยมและทุนผูกขาด ขยายเครือข่ายสร้างระบบ(วงจรอุบาทว์) ความมั่นคงทางอำนาจและทางเศรษฐกิจของทุนผูกขาด เพื่อใช้ยึดครองประเทศตามที่เป็นอยู่ทุกวันนี้
THE SYSTEMS ARE PREVENT TO BECOME THE REAL DEMOCRACY.
APSALUTE MONARCHY

1.    มีอำนาจตามโครงสร้างระบอบกษัตริย์

2.    Head of Kingdom
ใช้อำนาจตรงในฐานะกษัตริย์

3.    The king can do no wrong

4.    พระเจ้าแผ่นดินคือกฎหมาย เป็นผู้
ใช้อำนาจแต่ผู้เดียว
5.    ไม่มีระบบการเลือกตั้ง กษัตริย์เป็นผู้บริหาร
สูงสุด
6.    Lese Majeste laws
7.    Non capitalist
8.    Corruptions
CONSTITUTIONAL MONARCHY
(THAILAND)
1. กษัตริย์มีอำนาจตามโครงสร้างรัฐธรรมนุญจารีต  ประเพณีนิยม
2. Head of kingdom
    ใช้อำนาจทางอ้อมผ่านระบบรัฐสภา ศาล
      นิติบัญญัติ
3. The king can do no wrong

4. กษัตริย์อยู่ภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญ
(ขัดแย้งกับข้อเท็จจริงในทางปฎิบัติ )
5. ระบบการเลือกตั้ง ผู้นำรัฐบาลเป็นผู้บริหาร
     สูงสุด (ต้องได้รับความเห็นชอบจากกษัตริย์)
6. Lese Majeste laws
7. Capitalist
8. Corruptions โดยระบบ

ขบวน การผูกขาดที่ยึดครองอำนาจและผลประโยชน์อย่างยาวนานนี้  เริ่มถูกแทนที่โดยกลุ่มทุนนิยมเสรีใหม่ นำโดย พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร จากปี 2544 เป็นต้นมา 

ช่วงระยะเพียง 5 ปี ของการเข้าครอบครองอำนาจการบริหารจัดการและการเศรษฐกิจ กลุ่มทุนใหม่ได้สร้างความรู้สึกไม่ปรอดภัยต่อกลุ่มอำนาจและทุนเก่า ความหวาดกลัวที่ต้องสูณเสียอำนาจและผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ 

จึงขยายเป็นชนวนสาเหตุการเกิดวิกฤตความขัดแย้ง และเป็นศัตรูแย่งชิงโค่นล้มกันเองอยู่ขณะนี้

สงครามความขัดแย้งเพื่อโค่นล้มได้ปรากฎเห็นชัดเมื่อกลุ่มอนุรักษ์อำนาจและทุนผูกขาด สร้างกระแสปลุกระดมเครือข่ายวงจรอุบาทว์ 

ที่ ประกอบด้วยบุคคลและคณะบุคคลจากระบบจารีตนิยมเก่า กลุ่มอำมาตย์ศักดินาอนุรักษ์นิยม กลุ่มนิยมอำนาจเผด็จทหาร กลุ่มพรรคการเมืองและนักการเมืองสายอนุรักษ์ ข้าราชการและนักวิชาการสายอนุรักษ์ สื่อมวลชน นักธุรกิจทุนผูกขาด บุคลและคณะบุคคลซึ่งสูญเสียผลประโยชน์จากผลกระทบทางนโยบายการบริหารจัดการ การเศรษฐกิจของกลุ่มอำนาจใหม่ และมวลชนจัดตั้ง ร่วมกันเป็นขบวนการสร้างกระแสความขัดแย้งด้วยข้อกล่าวหาต่างๆ 

จนเกิดความชอบธรรมใช้โค่นล้มด้วยการทำรัฐประหารโดยกลุ่มอำนาจนิยมเผด็จการทหารเมื่อ 19  กันยายน 2549

การต่อต้านอำนาจเผด็จการนอกระบบ การเข้ามามีอำนาจของกลุ่มขั้วอำนาจเก่าและทุนผูกขาดที่ Corruptions ลุแก่อำนาจนำระบบนิติรัฐ นิติธรรมสองมาตราฐานทำลายล้างฝ่ายตรงข้าม 

การ ไม่เคารพหลังการประชาธิปไตย การลิดรอนสิทธิเสรีภาพพื้นฐานของประชาชน การเปลี่ยนแปลงนโยบายประชานิยมที่ประชาชนได้รับผลประโยชน์จากรัฐบาลก่อน จึงเป็นที่มาของพลังมวลชนคนเสื้อแดง 2 กระแสคือ

1.    กระแส ต้องการประชาธิปไตยที่อำนาจเป็นของปวงชนแท้จริงและต่อต้านอำนาจเผด็จการนอก ระบบ ร่วมด้วยกลุ่มจากกระแสความเจ็บแค้นจากเหตุการณ์เข่นฆ่าประชาชนเมื่อ 10 เมษายน และ 19 พฤษภาคม 2553 กลุ่มรักความเสมอภาพ สิทธิมนุษย์ชนและความเป็นธรรม กลุ่มสนับสนุนความเป็นนิติรัฐ นิติธรรม ๆลๆ

2.    กระแส สนับสนุน พ.ต.ท ทักษิณและการต้องการผลประโยชน์จากนโยบายทุนเสรีประชานิยม ของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัฒน์ อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย  

จากวันรัฐประหารถึงปัจจุบัน นับเวลากว่า 5 ปีที่ขบวนการกลุ่มยึดครองอำนาจเก่า ใช้วิธีเลวร้ายทุกวิถีทางสร้างสถานะการณ์เพื่อมุ่งหวังทำลายล้างพลังคนเสื้อแดง 

แต่ ด้วยการยึดมั่นอุดมการณ์ในกรอบนิติรัฐ นิติธรรมและหลักประชาธิปไตยที่สังคมภายในและนอกประเทศยอมรับ ประกอบร่วมการขยายมวลชนทางคุณภาพ ความรู้ความเข้าใจและปริมาณ ได้สะท้อนนำความเสื่อมถอยก่อวิกฤตศรัทธาต่อกลุ่มอำนาจเก่าอย่างไม่เคยเกิด ขึ้นมาก่อน 

ซึ่ง นำมาสู่การพ่ายแพ้ทั้งขบวนการในระบบรัฐสภา การเลือกตั้ง การยอมรับและความเชื่อถือของสังคมภายในและสังคมโลก ความกลัวและหวาดวิตกที่พลังประชาธิปไตยเติบโตแข็งแรงมากขึ้น 

ทำ ให้กลุ่มลัทธิอนุรักษ์นิยมทางอำนาจที่อยู่ในภาวะอ่อนแอ เห็นว่าคงจะไม่สามารถควบคุมสถานะภาพทางอำนาจ เศรษฐกิจต่อไปตามสภาพการปัจจุบัน  จึงนำยุทธศาสตร์ 2 แนวรบมาเป็นเครื่องมือขับเคลื่อน ซึ่งประกอบด้วย

1.    เกมส์เสนอการปรองดองและสมานฉันท์ (จอมปลอม)

          1.1  วัตถุประสงค์เพื่อยื้อเวลารอการพื้นตัวของขบวนการอำนาจเก่าที่กำลังอ่อนแอ (เช่นเดียวกับปี 2490 ถึง สฤษดิ์ ธนะรัชต์ 2500 ) โดยยึ่นข้อเสนอที่มีแนวทางอาจไม่สามารถตกลงได้จริง (เพื่อรอผลแนวรบที่ 2) หรือถ้าที่สุดจำเป็นต้องตกลง ก็ต้องให้เกิดประโยชน์ฝ่ายตนมากที่สุด 

โดยแฝงเงื่อนไขที่สามารถนำไปโฆษณาชวนเชื่อเพื่อสร้างความขัดแย้งหรือความไม่พอใจ ให้เกิดความแตกแยกในขบวนการคนเสื้อแดง 2 กระแส หรือกับพรรคเพื่อไทยและคุณทักษิณ

              1.2 เพื่อใช้เป็นทางออกในการต่อรองกรณีข้อ 1.1 และ ข้อ 2 (แนวรบที่ 2) ไม่ประสพผลสำเร็จตามเป้าหมาย จึงอาจเสนอยอมแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและอำนาจการบริหารการปกครองบางส่วนให้พรรคเพื่อไทย 

แต่ยังคงอำนาจการควบคุมเด็ดขาดภายใต้เสื้อคุมตัวเดิม (เปลียนขั้วอำนาจภายใต้โครงสร้างเดิม)

2.    เกมส์สร้างกระแสล้มเจ้าและต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ระหว่างดำเนินการแนวรบที่ 1 แนวรบที่ 2 ปลุกระดมรื้อฟื้นเครือข่ายที่ช่วยล้มคุณ ทักษิณ เมือปี 2549 ประสานทั้งในระบบรัฐสภา มวลชนนอกสภา องค์กรอิสระ ศาลและกองทัพ ด้วยประเด็น "ล้มเจ้า" และการ "ต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนุญ"เพื่อเป็นหนทางโค่นล้มกลุ่มขั้วอำนาจใหม่ ทักษิณและสลายพลังมวลชนคนเสื้อแดง อย่างที่เคยทำสำเร็จมาแล้ว

ยุทธวิธี แสดงท่าทีประนีประนอมยอมรับข้อเสนอปรองดองและการสมานฉันท์ที่คุณทักษิณ พรรคเพื่อไทยและแกนนำเสื้อแดง (นปช) แสดงออกทั้งก่อนและหลังพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งขึ้นมามีอำนาจบริหาร ประเทศ เช่น

                     1  ประกาศไม่แตะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญในหมวดเกี่ยวกับอำนาจกษัตริย์
                     2. ประกาศไม่แตะต้องแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 (กฏหมายหมิ่น)
                    3.  ไม่กระตือรือร้นในการนำคนผิด (สั่งฆ่าประชาชน) มาลงโทษ ด้วยข้ออ้างว่าได้ดำเนินการแล้ว อยู่ในขบวนการทางศาล ไม่มีอำนาจเข้าไปก้าวก่าย (คาดว่าอยู่ในข้อเสนอการปรองดองซึ่งอาจยังไม่กล้าตกลงในเงื่อนไขการนิรโทษกรรม)
                    4.  ไม่กระตือรือร้นในคดีผู้ทำผิดกฎหมายของกลุ่มอำนาจเก่า (คาดว่าอยู่ในข้อเสนอรอผลการเจรจาปรองดองและการนิรโทษกรรม)
                    5.   ไม่กระตือรือร้นในการนำคนเสื้อแดงออกจากคุกหรือการประกันตัว (คาดว่ารอผลการตกลงในขั้นตอนการปรองดอกและการนิรโทษกรรม)
                   6.  พยายามช่วยแยกกองทัพออกจากความผิดฆ่าประชาชน (คาดว่าเป็นข้อเสนอเพื่อสร้างบรรยากาศปรองดอง)
                   7. ไม่แตะต้องอำนาจทหาร (สร้างมิตรแยกศัตรู ไม่ให้ทหารร่วมและทำรัฐประการ)

จึงอาจสรุปได้เป็น 2 นัยยะคือ

1.    เป็นยุทธวิธีการตั้งรับเพื่อต่อสู้กระแสรุกของกลุ่มอำนาจเก่าแบบสันติวิธี และสร้างความชอบธรรมด้วยเพราะ

- ยังไม่พร้อมลุกขึ้นเพื่อการเปลี่ยนแปลง (ไม่แน่ใจพลังมวลชนและคุณ ทักษิณ พรรคเพื่อไทยไม่ต้องการ)
-  รอเวลาเปลี่ยนผ่านหลังสิ้นสุดรัชการ
- ไม่ต้องการให้เกิดการสูญเสียเลือดเนื้อ
- เพื่อให้พรรคคงอยู่ในอำนาจสร้างผลงานต่อประชาชน สานต่อนโยบายทุนนิยมเสรี
- ปูแนวทางการเปลี่ยนผ่านประชาธิปไตยแบบสันติวิธีทางระบบรัฐสภา หลังการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
- ปิดโอกาสถูกนำเป็นเงื่อนไขให้อำนาจนอกระบบเข้ามาล้มอำนาจอีก

2.    หรืออาจเป็นยุทธวิธี ต้องการยอมตกลงกับฝ่ายกุมอำนาจเก่า

- เพื่อได้เป็นรัฐบาลบริหารประเทศโดยยอมอยู่ภายใต้โครงสร้างสังคมเดิม
- เพื่อประนีประนอมใม่ต้องการขัดแย้งกับสถาบันคุมอำนาจต่อไป
- เพื่อนิรโทษกรรมให้คุณ ทักษิณ สามารถกลับเข้าประเทศ และคนเสื้อแดงหลุดพ้นคดีความ
- เพื่อการปรองดองสมานฉันท์
- เพื่อเข้ามามีอำนาจแทนกลุ่มอำนาจเก่าและสานต่อนโยบายทุนนิยมเสรี           
 
ไม่ว่าจะด้วยทฤษฎี win win หรือ ด้วยสาเหตุอื่นใดก็ตาม ที่คุณ ทักษิณและพรรคเพื่อไทยใช้เป็นสาเหตุประนีประนอบเพื่อหวังเปลี่ยนขั้วเข้ามา มีอำนาจ และหวังนำไปสู่การเปลี่ยนผ่านให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตย เมื่อมองย้อนดูลักษณะโครงสร้างสังคมไทย (ไดอะแกรมด้านบน) จะเห็นว่า คงเป็นไปไม่ได้โดยง่ายหรืออาจเป็นไปไม่ได้เลย 

เพราะ โครงสร้างสังคมไทยมีดีกรีความเกี่ยวโยงกับความไม่ต้องการให้มีประชาธิปไตย อยู่อย่างสูง ตราบใดที่วงจรอุบาทว์นี้ยังดำเนินอยู่ โดยไม่มีการแก้ไขหรือยกเลิก ก็จะเป็นอุปสรรคสำคัญที่ไม่สามารถเปลี่ยนผ่านได้ 

เพราะ กลไกที่อยู่ในโครงสร้างประกอบด้วยระบบอภิสิทธิ์ชน ระบบอุปถัมภ์ และระบบโครงสร้างอำมาตย์ทางชนชั้นที่สนับสนุนระบอบการปกครงแบบคณาธิปไตย ซึ่งรวมเป็นเครือข่ายที่มีอิทธิพลอย่างสูงในการกดขี่ชี้นำสังคม โดยเอื้อประสานอำนวยให้เกิดความเหลื่อมล้ำไม่เสมอภาคทางสังคม ทางนิติรัฐ นิติธรรม ทางไม่มีสิทธิเสรีภาพเท่าเทียมกัน ทางอำนาจบริหาร ปกครองและทางเศรษฐกิจ 

ฉนั้น การจะแก้ไขหรือยกเลิกโดยแนวทางเปลี่ยนผ่านตามอำนาจที่ได้รับการยินยอม จึงเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้และโครงสร้างของระบบนี้ เคยเป็นตัวจักรสำคัญในการโค่นล้ม คุณทักษิณมาแล้ว

นอกจากนั้น วงจรอุบาทว์ยังเป็นต้นต่อของการ Corruptions ที่ระบาดอยู่ในสังคมไทย ด้วยเมื่อบุคคลหรือคณะบุคคลมองเห็นโอกาสทางอิทธิพล อำนาจและผลประโยชน์ ต้องการเข้าเป็นส่วนหนึ่งของสังคมนี้ 

เงิน จึงเป็นปัจจัยสำคัญของการปรับปรุงฐานะทางสังคม อาชีพ ตำแหน่งหน้าและส่วนประกอบอื่นๆเพื่อยกระดับเสริมอิทธิพล อำนาจ ศรัทธาและบารมีตัวเองให้เป็นที่ยอมรับ 

วิธีหาเงินโดยใช้ตำแหน่งหน้าที่ corruptions ด้วย แนวทางผิดคุณธรรม ผิดกฎหมาย หรือดูเหมือนถูกกฎหมายโดยไม่สามารถตรวจสอบได้ จึงเป็นทางออกของการใช้อำนาจเงิน สร้างและรักษาอิทธิพล อำนาจ ศรัทธาและบารมี

Corruptionsจึง เป็นเครื่องมือและเส้นเลือดน้ำหล่อเลี้ยงให้ทั้งระบบโครงสร้างวงจรอุบาทว์ นี้เติบโตและสามารถดำรงอยู่ได้ ผู้มีอำนาจ ผู้ได้รับผลประโยชน์จากระบบ จึงต้องช่วยกันปกป้องทุกวิถีทาง ขัดขวางไม่ให้ถูกกระทบหรือถูกทำลาย ระบอบประชาธิปไตยที่ประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจและตรวจสอบได้ จึงเป็นศัตรูสำคัญของระบบนี้

ประ ชาธิไตยไม่ใช้เพียงแค่เลือกตั้งเข้ามามีอำนาจ เป็นรัฐบาลและแก้รัฐธรรมนูญ เมื่อคุณทักษิณและพรรคเพื่อไทยต้องการประนีประนอมด้วยระบบ win win หรือ อาจเป็นแนวทางอื่นใดก็ตาม คงต้องไม่ละเลยหรือ ไม่สนใจความต้องการของประชาชนผู้มีส่วนร่วมทำให้พรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้ง ขึ้นมามีอำนาจ 

และ คุณทักษิณ มีโอกาสเจรจาต่อรอง เพราะเช่นขณะนี้ยังมีคนเสื้อแดงที่ต่อสู้เพื่อสิ่งนี้ ติดคุกไม่ได้รับการประกันตัว ไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งขัดกฎหมายรัฐธรรมนุญอยู่เช่น

มาตรา 6  รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ บทบัญญัติใดของกฎหมาย กฎ หรือข้อบังคับ ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญนี้ บทบัญญัตินั้นเป็นอันใช้บังคับมิได้         
               
มาตรา 26 การใช้อำนาจโดยองค์กรของรัฐทุกองค์กร ต้องคำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิและเสรีภาพ ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้           
               
มาตรา27 สิทธิ และเสรีภาพที่รัฐธรรมนุญนี้รับรองไว้โดยขัดแจ้ง โดยปริยายหรือโดยคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ย่อมได้รับความคุ้มครองและผูกพันรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล รวมทั้งองค์กรตามรัฐธรรมนูญ และหน่วยงานของรัฐโดยตรง

มาตรา 29 การ จำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลที่รัฐธรรมนุญรับรองไว้จะกระทำมิได้ เว้นแต่โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย เฉพาะเพื่อการที่รัฐธรรมนูญนี้กำหนดไว้เท่าที่จำเป็น และจะกระทบกระเทือนสาระสำคัญแห่งสิทธิและเสรีภาพนั้นมิได้

มาตรา 39 ย่อหน้า สอง ในคดีอาญา ต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่มีความผิด  ก่อนมีคำพิพากษาอันถึงที่สุดแสดงว่าบุคคลใดได้กระทำความผิด จะปฎิบัติต่อบุคคลนั้นเสมือนผู้กระทำผิดมิได้

มาตรา 40 ข้อ 7 ใน คดีอาญา ผู้ต้องหาหรือจำเลยมีสิทธิได้รับสิทธิได้รับการสอบสวนหรือการพิจารณาคดีที่ ถูกต้อง รวดเร็วและเป็นธรรม โอกาสในการต่อสู้คดีอย่างพอเพียง การตรวจสอบหรือได้รับทราบพยานหลักฐานตามสมควร การได้รับความช่วยเหลือในทางคดีจากทนายความ และการได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว

มาตรา 81 รัฐต้องดำเนินการตามแนวนโยบายด้านกฎหมายและการยุติธรรม ดังต่อไปนี้
(1) วรรคแรก ดูแลให้มีการปฎิบัติและบังคับการให้เป็นไปตามกฎหมายอย่างถูกต้อง
(2) คุม คร้องสิทธิและเสรีภาพของบุคคลให้พ้นจากการล่วงละเมิด ทั้งโดยเจ้าหน่าที่ของรัฐและบุคคลอื่น และต้องอำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชนอย่างเท่าเทียมกัน

เมื่อศาลซึ่งเป็นองค์กรหนึ่งของรัฐ ไม่ปฎิบัติตามกฎหมายรัฐธรรมนุญ มาตรา 39 และ 40 ข้อ7วรรค ท้าย แต่เลือกปฎิบัติตามประมวลกฎหมายอาญา โดยใช้ข้ออ้างว่าเป็นคดีโทษสูง กลัวหลบหนีและอื่นๆ จึงไม่ให้ประกันปล่อยตัวชั่วคราว (ไม่มีบัญญัติไว้ในกฎหมายรัฐธรรมนูญให้อำนาจศาลเป็นข้อยกเว้น) จึงเป็นข้ออ้างที่ขัดแย้งกับเจตจำนงของมาตรา 6, 26, 27 ,29 รวมทั้ง 39, 40 ข้อ 7 เอง  เท่ากับศาลเจตนาทำผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ ดังนั้นรัฐบาลมีหน้าต้องปฎิบัติโดยทันทีตามมาตรา 81 ข้อ 1 และข้อ 2 คือ ดำเนินคดีกับผู้พิพากษาทั้งคณะที่พิพากษาขัดแย้งกับกฎหมายรัฐธรรมนูญ และจึงไม่ใช่การล่วงอำนาจศาล
                                                                                                                                     ผู้นำและมวลชนคนเสื้อแดงจึงต้องตระหนักและต้องไม่ยินยอมหรือยอมตาม ให้กลุ่มคณะบุคคล พรรคการเมืองหรือกลุ่มทุนที่เราสนับสนุน (เพราะเห็นว่ามีแนวคิดสอดคล้องมากกว่ากลุ่มอื่น) มีอิทธิพลเป็นผู้บงการ กำหนดชักนำ เปลี่ยนแปลงแนวทางวัตถุประสงค์ซึ่งเป็นความต้องการแท้จริงของประชาชน 

และ ต้องไม่ยอมให้พลังประชาธิปไตยของคนเสื้อแดงถูกใช้เป็นเพียงเครื่องมือ เพื่อการตอบสนองพรรคและกลุ่มทุน โดยหวังได้รับเพียงผลประโยชน์และการสนับสนุนที่ได้รับการเสนอให้เท่านั้น 

ดังนั้นนโยบาย win win จึง สมควรเลือกที่จะปฎิบัติกับฝ่ายจริงใจสนับสนุนมากกว่าฝ่ายจ้องทำลาย คุณทักษิณจะกลับบ้านอย่างมีเกียรติและศักดิ์ศรี ก็มิใช่เพราะเกิดจากการปรองดองหรือนิรโทษกรรม แต่เกิดจากการร่วมมือกับกลุ่มพลังประชาธิปไตยคนเสื้อแดง นำประชาธิปไตยที่เป็นของประชาชนกลับคืนสู่ประชาชน

อย่าง ไรก็ดี ประเทศไทยคงหนีไม่พ้นที่จะต้องดำเนินแนวทางเศรษฐกิจระบบทุนนิยมเสรี ตามโครงสร้างเศรษฐกิจโลก ขบวนการคนเสื้อแดง ก็ต้องสนับสนุน คุณทักษิณและพรรคเพื่อไทย ตราบใดที่ยังยืนอยู่บนเป้าหมายเดียวกัน ประเทศยังไม่เป็นประชาธิปไตยแท้จริง และการเคารพซึ่งกันและกัน คนเสื้อแดงยังต้องมีหน้าที่ประคับประคองปกป้องพรรคเพื่อไทย รัฐบาลไม่ให้ถูกโค่นล้มทำลายตลอดไป และยังต้องพลักดันให้ก้าวไปสู่
1.    การมีรัฐธรรมนูญของประชาชน เพื่อประชาชน โดยประชาชน
2.    รัฐบาลประชาธิปไตยของประชาชน
3.    เศรษฐกิจ ทุนนิยมเสรีของประชาชน ( วิสาหกิจมวลชน)
4.    ระบบภาษีก้าวหน้า (ผู้มีรายได้ต้องอยู่ในระบบภาษี)
5.    ระบบรัฐสวัสดิการ 
6.    กองทัพประชาชน (ที่ไม่ใช้อาวุธ) เพื่อปกป้องประชาธิปไตย

หมายเหตุจากผู้เขียน:บทความโดย: TAWANSEEDANG (คนไทยในออสเตรเลีย)ไม่สงวนสิทธิ์ในการเผยแพร่ สงวนสิทธิ์ ลบ แก้ไข ตัดทอน ต่อเติม โดยไม่แจ้งให้ทราบหาอ่านได้ใน Red Power

Open publication - Free publishing

ที่มา thaienews

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น